โปรไบโอติก เภสัชจุฬา

สั่งซื้อได้แล้ววันนี้

โปรโมชั่นถึง 31 มกราคม

เพียง 1,250 ฿ / 1 กระปุก
(ราคาเต็ม 1,450 ฿)

หมายเหตุ: 1 กระปุก มีค่าส่ง 50บ. 2 กระปุกขึ้นไปส่งฟรี*

โปรไบโอติก ช่วยอะไร

โปรไบโอติก คือ อะไร

โปรไบโอติก เป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กซึ่งจัดเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร และระบบอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งเมื่อมีอยู่ในประมาณที่เหมาะสมจะช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหารและระบบอื่นๆ ของร่างกาย จุลินทรีย์เหล่านี้มีส่วนช่วยในการดูดซึมสารอาหาร การป้องกันโรค และการรักษาภาวะที่ผิดปกติของร่างกาย

 

ProbioKhler ดีกว่า โปรไบโอติกส์อื่นอย่างไร


เพราะโปรไบโอเคลีย เป็นงานวิจัยจากนวัตกรรมพิเศษ 𝙏𝙚𝙩𝙧𝙖𝙗𝙞𝙤𝙩𝙞𝙘𝙨 ผสานด้วย 4 พลัง

  • 𝙋𝙧𝙤𝙗𝙞𝙤𝙩𝙞𝙘 คือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • 𝙋𝙧𝙚𝙗𝙞𝙤𝙩𝙞𝙘  คืออาหารของ 𝙋𝙧𝙤𝙗𝙞𝙤𝙩𝙞𝙘 ช่วยเพิ่มจำนวนและส่งเสริมการทำงานของ Prebiotics
  • 𝙋𝙤𝙨𝙩𝙗𝙞𝙤𝙩𝙞𝙘 คือสารที่ 𝙋𝙧𝙤𝙗𝙞𝙤𝙩𝙞𝙘 ผลิตขึ้นจาก 𝙋𝙧𝙚𝙗𝙞𝙤𝙩𝙞𝙘 ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ
  • 𝙋𝙖𝙧𝙖𝙗𝙞𝙤𝙩𝙞𝙘 คือสารที่ช่วยส่งเสริมสภาวะแวดล้อมของ 𝙋𝙧𝙤𝙗𝙞𝙤𝙩𝙞𝙘ให้มีชีวิตอยู่รอดและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

 

ลำไส้แปรปรวน วิธีรักษา
โปรไบโอเคลีย

โปรไบโอติกส์เภสัชจุฬา ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่มีชีวิตสายพันธุ์เฉพาะสำหรับผิว

👉 ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่ดีมีประโยชน์ต่อผิว 7 สายพันธ์ุคือ

🧬 Bacillus Coagulans ช่วยลดแบคทีเรียก่อโรค ลดการทำลายคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดสิว

🧬 Lactobacillus acidophilus ช่วยส่งเสริมการหายของแผล ลดการเกิดสิว ลดการอักเสบของผิว ลดความรุนแรงของผื่นผิวหนังอักเสบ

🧬 Lactobacillus L paracassei ลดการเกิดโรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic dermatitis) ลดอาการคัน ลดความอักเสบแดงของผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงไม่แพ้ง่าย

🧬 Bifidobacterium bifidum ช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ต้านอนุมูลอิสระ ลดความรุนแรงของผื่นผิวหนังอักเสบ

🧬 Lactobacillus L rhamnosus ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิวที่ป้องกันร่างกายจาก เชื้อโรค ฝุ่น ละออง และมลภาวะต่างๆ ป้องกันการสูญเสียน้ำในผิวชั้นบน

🧬 Saccharomyces Boulardii ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดอาการท้องเสีย ลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา

🧬 Bifidobacterium Longum ลดการทำลาย เกราะป้องกันผิว

โปรไบโอติก ปรับสมดุลลำไส้
โปรไบโอติก ยี่ห้อไหนดี

PROBioKhlear ยังประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ 5 ชนิดที่สำคัญต่อผิว

 

  1. Ascrobic Acid, กรดแอสคอร์บิก (Vitamin C) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเซลล์ผิว และช่วยให้บาดแผลหายเร็ว
  2. DL-alpha-tocopheryl acetate,(Vitamin E) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น
  3. Vitamin D3 ช่วยลดการอักเสบของผิว ช่วยลดความเครียดทำให้ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมนได้เพียงพอซึ่งส่งผลต่อผิวพรรณ ช่วยให้ผิวพรรณของเราก็จะดูอ่อนกว่าวัย เปล่งปลั่ง เนียน ชุ่มชื้น
  4. Niacinamide,ไนอาซีนาไมด์ (Vitamin B3) ช่วยลดอาการอักเสบของผิว ลดสิว ลดรอยแดง ลดรอยหมองคล้ำ ลดจุดด่างดำ และกระชับรูขุมขน
  5. Zinc Oxide,ซิงค์ออกไซด์ ช่วยลดการอักเสบของผิว บรรเทาสิว ช่วยสมานแผลผิวหนัง ปกป้องผิวจากความร้อน
ร่างกายขาดแคลเซียม

นวัตกรรมใหม่ ไบโอแคลเซียม
แห่งแรกของประเทศไทย
งานวิจัยจากคณะเภสัชจุฬาฯ

“ไบโอแคลเซียม” คือแคลเซียมจากธรรมชาติ100% ผสานการทำงานระหว่าง แคลเซียมและไบโอติกส์ เข้าไว้ด้วยกัน ช่วยส่งเสริมการดูดซึมให้ มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม และไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาหลัก ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่พบเจอจากการรับประทานแคลเซียมเสริมที่จำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป ส่วนใหญ่คือ แคลเซียม คาร์บอเนต ซึ่งมีราคาถูกแต่ ละลายได้ไม่ดี ทำให้เกิดภาวะแคลเซียมเกาะพอกเป็นหินปูน อีกทั้งยังทำให้เกิดภาวะท้องอืด ท้องเฟ้อ และท้องผูกตามมาอีกด้วย

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และส่งเสริมให้แคลเซียมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “ไบโอแคลเซียม B.one” จึงใส่ส่วนผสมของ พรีและโพร ไบโอติกส์ อีกทั้งเพิ่ม วิตามินK2 และวิตามินD3 เข้ามาด้วย ซึ่งมีส่วนช่วย เช่น

  พรีไบโอติกส์+โพรไบโอติกส์ สายพันธุ์เฉพาะสำหรับกระดูกถึง 4 ชนิด และยังเลือกใช้ตัวพรีไบโอติกส์ ที่ได้จากธรรมชาติ เช่น Partially Hydrolyzed Guar Gum  ที่มีส่วนช่วยทำให้ลำไส้แข็งแรง ลดการติดเชื้อในลำไส้และทางเดินอาหาร อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลและกระตุ้นการย่อยอาหาร

  วิตามิน K2  มีส่วนช่วยในการเพิ่มฤทธิ์การทำงานของเอนไซม์สร้างกระดูก กระตุ้นการเก็บสะสมแร่ธาตุในคอลลาเจนและกรอบนอกของคอลลาเจน จึงยิ่งทำให้กระดูกแข็งแรง

–  วิตามิน D3  มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม และรักษามวลกระดูกให้แข็งแรง แม้วิตามิน D3 สามารถสร้างได้เองผ่านผิวหนังของร่างกายจากการโดนแดด แต่กระนั้น การสร้างวิตามินD3 ประสิทธิภาพก็จะลดลงไปตามวัยและความแข็งแรงของผิวหนัง ดังนั้นในผู้สูงวัยจึงไม่สามารถผลิตวิตามินD3 ได้อีก จึงจำเป็นต้องทานอาหารเสริมเพื่อรักษามวลกระดูกภายในร่างกาย

 

ProbioKhlear โปรไบโอติก กินตอนไหน

  • โดยปกติแล้วรับประทานวันละ 1 เม็ด โดยใน 1 เม็ดจะมีปริมาณจุลินทรีย์อยู่ที่ 10  Billion CFU (หน่วยที่ได้จากวิธีตรวจนับปริมาณจุลินทรีย์) ซึ่งสามารถรับประทานต่อเนื่องได้ 
  • หากอาการมาก ในช่วงแรกต้องการเร่งการดูแลผิว สามารถทาน วันละ 2 เม็ด แบ่ง เช้า เย็น ได้ แต่หากกินพร้อมกัน 2 เม็ด Zn จะค่อนข้างสูงมาก ผลข้างเคียงคือมีอาการท้องอืดหรือแน่นท้อง หรือมีอาการคลื่นไส้ได้ 
  • กลุ่ม เด็ก สตรี คนชรา และคนท้อง ส่วนประกอบของอาหารเสริม ProbioKhlear ไม่มีสารอาหารต้องห้ามสำหรับกลุ่ม เด็ก สตรี คนชรา และคนท้อง 
  • ข้อควรระวังสำหรับเด็ก เนื่องจากปริมาณวิตามินและเกลือแร่ในอาหารเสริม ProbioKhlear  มีปริมาณวิตามินและเกลือแร่ที่มากเกินไปสำหรับเด็กต่อหนึ่งวัน
  • ข้อควรระวังสำหรับคนท้อง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลก่อนรับประทาน
  • อย่างไรก็ตาม ที่ฉลากจะระบุว่า เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน “ตามกฎหมาย” 
  • กรณีที่ไม่ได้มีปัญหาด้านผิวหรือผิวดีอยู่แล้ว จะช่วยในเรื่อง
    • ลดการเกิดสิว เซปเดิร์ม ผื่น 
    • ปรับสมดุลลำไส้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปกติต้องใช้เวลาระยะยาวอยู่แล้ว
    • เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ผิว และร่างกายโดยรวม และทำให้ผิวแข็งแรง
    • ค่อย ๆ ลดเม็ดสีเมลามินอย่างเป็นธรรมชาติ
แคลเซียมแบบเม็ด

แคปซูลนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยเพิ่มอัตรา
การรอดของโพรไบโอติกส์

แคปซูลส่วนใหญ่ไม่ทนต่อน้ำกรดช่วงกระเพาะของมนุษย์ จึงทำให้แคปซูลเสื่อมสลายไปก่อน ทำให้ร่างกายไม่ได้รับจุลินทรีย์ที่ดีในปริมาณที่ควรได้รับ

นวัตกรรมแคปซูล 3 ชั้นที่ผ่านการวิจัยว่าทนต่อน้ำกรดในกระเพาะอาหาร

ชั้นที่ 1 Fiber Layer คือ โพลิเมอร์ธรรมชาติ ทนต่อกรด แรงเสียดสี และอุณหภูมิได้ดี

ชั้นที่ 2 Polypeptide Layer คือ เปปไทด์ต้านอนุมูลอิสระ สร้างเกราะป้องกันออกซิเจน เพื่อป้องกันการเสียหายทางชีวภาพ

ชั้นที่ 3 Phospolipid Layer คือ ชั้นฟิล์มชีวภาพ ที่ส่งเสริมการทำงานของโพรไบโอติกส์ พร้อมการควบคุมปล่อยสารแบบ targeted control release

แคปซูลนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยเพิ่มอัตรา
การรอดของโพรไบโอติกส์

แคปซูลส่วนใหญ่ไม่ทนต่อน้ำกรดช่วงกระเพาะของมนุษย์ จึงทำให้แคปซูลเสื่อมสลายไปก่อน ทำให้ร่างกายไม่ได้รับจุลินทรีย์ที่ดีในปริมาณที่ควรได้รับ

นวัตกรรมแคปซูล 3 ชั้นที่ผ่านการวิจัยว่าทนต่อน้ำกรดในกระเพาะอาหาร

ชั้นที่ 1 Fiber Layer คือ โพลิเมอร์ธรรมชาติ ทนต่อกรด แรงเสียดสี และอุณหภูมิได้ดี

ชั้นที่ 2 Polypeptide Layer คือ เปปไทด์ต้านอนุมูลอิสระ สร้างเกราะป้องกันออกซิเจน เพื่อป้องกันการเสียหายทางชีวภาพ

ชั้นที่ 3 Phospolipid Layer คือ ชั้นฟิล์มชีวภาพ ที่ส่งเสริมการทำงานของโพรไบโอติกส์ พร้อมการควบคุมปล่อยสารแบบ targeted control release

ProbioKhlear โปรไบโอติก กินตอนไหน

ProbioKhlear
โปรไบโอติก กินตอนไหน

  • โดยปกติแล้วรับประทานวันละ 1 เม็ด โดยใน 1 เม็ดจะมีปริมาณจุลินทรีย์อยู่ที่ 10  Billion CFU (หน่วยที่ได้จากวิธีตรวจนับปริมาณจุลินทรีย์) ซึ่งสามารถรับประทานต่อเนื่องได้ 
  • หากอาการมาก ในช่วงแรกต้องการเร่งการดูแลผิว สามารถทาน วันละ 2 เม็ด แบ่ง เช้า เย็น ได้ แต่หากกินพร้อมกัน 2 เม็ด Zn จะค่อนข้างสูงมาก ผลข้างเคียงคือมีอาการท้องอืดหรือแน่นท้อง หรือมีอาการคลื่นไส้ได้ 
  • กลุ่ม เด็ก สตรี คนชรา และคนท้อง ส่วนประกอบของอาหารเสริม ProbioKhlear ไม่มีสารอาหารต้องห้ามสำหรับกลุ่ม เด็ก สตรี คนชรา และคนท้อง 
  • ข้อควรระวังสำหรับเด็ก เนื่องจากปริมาณวิตามินและเกลือแร่ในอาหารเสริม ProbioKhlear  มีปริมาณวิตามินและเกลือแร่ที่มากเกินไปสำหรับเด็กต่อหนึ่งวัน
  • ข้อควรระวังสำหรับคนท้อง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลก่อนรับประทาน
  • อย่างไรก็ตาม ที่ฉลากจะระบุว่า เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน “ตามกฎหมาย” 
  • กรณีที่ไม่ได้มีปัญหาด้านผิวหรือผิวดีอยู่แล้ว จะช่วยในเรื่อง
    • ลดการเกิดสิว เซปเดิร์ม ผื่น 
    • ปรับสมดุลลำไส้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปกติต้องใช้เวลาระยะยาวอยู่แล้ว
    • เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ผิว และร่างกายโดยรวม และทำให้ผิวแข็งแรง
    • ค่อย ๆ ลดเม็ดสีเมลามินอย่างเป็นธรรมชาติ
วิธีเลือก กินแคลเซียม ผลข้างเคียง

ข้อควรระวังในการทานแคลเซียม

   ควรทานให้พอเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย เพื่อป้องกันภาวะแคลเซียมเกินในร่างกาย

   หากทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจมีส่วนทำให้เป็นนิ่วในไต มะเร็งต่อมลูกหมาก การดูดซึมแร่ธาตุและสังกะสีในร่างกายบกพร่อง รวมไปถึงภาวะแคลเซียมเกาะตามผนังหลอดเลือดอีกด้วย

   ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน ไม่ควรซื้อแคลเซียมมาทานเอง เพราะอาจมีจำนวนแคลเซียมที่เกินกว่าความต้องการ หรือส่งผลข้างเคียงต่อโรคของท่าน

 

ข้อควรระวังในการทานแคลเซียม

   ควรทานให้พอเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย เพื่อป้องกันภาวะแคลเซียมเกินในร่างกาย

   หากทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจมีส่วนทำให้เป็นนิ่วในไต มะเร็งต่อมลูกหมาก การดูดซึมแร่ธาตุและสังกะสีในร่างกายบกพร่อง รวมไปถึงภาวะแคลเซียมเกาะตามผนังหลอดเลือดอีกด้วย

   ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน ไม่ควรซื้อแคลเซียมมาทานเอง เพราะอาจมีจำนวนแคลเซียมที่เกินกว่าความต้องการ หรือส่งผลข้างเคียงต่อโรคของท่าน

 

สั่งซื้อได้แล้ววันนี้
฿1,450/กระปุก

หมายเหตุ: 1 กระปุก มีค่าส่ง 50บ. 2 กระปุกขึ้นไปส่งฟรี*